A5508 พระหูยาน วัดราชบพิตร(จปร) กรุงเทพ ปี 2512 กรุงเทพ เนื้อทองแดง 10

พระหูยาน จ.ป.ร. 100 ปี พิธีใหญ่ ของ วัดราชบพิธ ฯ ปี 2513 นิมนต์ เกจิทั่วประเทศ 108 รูป เข้มขลัง ทหารติดตัวออกศึกเวียดนามพระเครื่อง วัตถุมงคล นั้น มีจำนวนมากมาย ให้ผู้มีความสนใจ ได้เช่าบูชากันตามความต้องการ ความศรัทธา อย่างไรก็ดี พระเครื่อง วัตถุมงคล จำนวนมาก ก็มีราคาสูง ยิ่งรุ่นยอดนิยม ไม่ว่า จะเป็นพระเก่า พระกรุ เกจิอาจารย์ ก็มีราคาเช่าหาไม่น้อย ซึ่งหลาย ๆ คน อาจจะไม่สามารถบูชามาครอบครองได้ ซึ่งก็เป็นเรื่องราวตามความเป็นจริง แล้วถ้าถามว่า หากต้องการพระดี พระมีประสบการณ์ แต่ราคายังจับต้องได้ มีหรือไม่ ก็ต้องขอบอกกันตามตรงว่า ยังมีอยู่ และ ในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จเป็นประธานอีกด้วยนั่นคือ พระหูยาน จ.ป.ร. 100 ปี วัดราชบพิธ กทม. ปี2513สำหรับ พระหูยาน รุ่นนี้ มีชื่อเรียกกันอีกชื่อว่า รุ่น ปืนแตก ชื่อรุ่นอย่างเป็นทางการคือ จ.ป.ร. รุ่น 100 ปี จัดสร้างที่ วัดราชบพิธสิถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร โดยสร้างล้อพิมพ์จาก “พระหูยานศิลปะลพบุรี” มีการแกะแม่พิมพ์ขึ้นใหม่มีความสวยงามขนาดพอเหมาะ คือไม่ใหญ่ และไม่เล็กจนเกินไป ด้านหลังประดิษฐานพระปรมาภิไธยย่อ “จ.ป.ร.” จัดสร้างเป็น 2 เนื้อ “นวโลหะ” และ “เนื้อทองแดง” ออกแบบ และแกะแม่พิมพ์โดย นายช่างเกษม มงคลเจริญ

การจัดสร้างวัตถุมงคลฉลอง 100 ปีของวัดราชบพิธฯ ครั้งนั้น มีความพิถีพิถันมากโดยกำชับให้ช่างทำการเจือ “เนื้อโลหะ” ทั้งหมดที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชมหาราช

ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณเสด็จฯ เททองวัตถุมงคลเป็นปฐมฤกษ์ ผสมกับแผ่นยันต์ลงอักขระของบรรดาคณาจารย์ ผู้ทรงวิทยาคุณจากทั่วประเทศ 108 รูป พร้อมทั้งชนวนโลหะวัตถุมงคลรุ่นเก่า ๆ ทุกรุ่นของวัดราชบพิธฯ ลงในวัตถุมงคลทุกแบบทุกเนื้อและทุกพิมพ์ ให้ทั่วถึงกันการประกอบพิธีมหาพุทธาภิเษก เป็นเวลา 3 วัน 3 คืน คือระหว่างวันที่ 29-30-31 มกราคม พ.ศ. 2514 โดย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีจุดเทียนชัย ในวันศุกร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2514สำหรับพระคณาจารย์ ผู้ทรงวิทยาคุณจากทั่วประเทศ ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังด้านพุทธคมในยุคนั้นทั้งสิ้น ที่รับนิมนต์มานั่งปรก จำนวน 108 รูป โดยผลัดเปลี่ยนกันมาร่วมพิธีในเเต่ละวัน

วันศุกร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2514ระหว่างเวลา 16.30 -20.00 น. เช่น พระเทพสังวรวิมล (เจียง) วัดเจริญสุขาราม จ.สมุทรสงคราม พระราชธปรมากรณ์ (เงิน) วัดดอนยายหอม จ.นครปฐมพระศูพิพิธวิหารการ (หลวงพ่อเทียม) วัดกษัตราธิราช จ.พระนครศรีอยุธยา หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง จ.นนทบุรี พระครูโสภณพัฒนกิจ วัดอัมพวา บางกอกน้อย ธนบุรี กรุงเทพฯ พระครูสุทธิการี (หลวงพ่อทองอยู่) วัดใหม่หนองพะอง จ.สมุทรสาคร เป็นต้นเวลา 20.00-22.00 น.เช่น พระราชสุทธาจารย์ (โชติ ระลึกชาติ) วัดวชิราลงกรณ์จ.นครราชสีมา พระนิโรธรังสีคัมภีร์เมธาจารย์ (หลวงปู่เทสก์ เทสโก) วัดหินหมากเป้ง จ.หนองคาย พระอินทสมาจารย์ (เงิน อินทสโร) วัดอินทรวิหาร กรุงเทพฯ พระครูสภาพรพุทธมนต์ (สำเนียง อยู่สถาพร) วัดเวฬุวนาราม จ.นครปฐมพระครูกัลป์ยานุกูล (เฮง) วัดกัลยาณมิตร ธนบุรี กรุงเทพฯ พระครูภาวนาภิรม วัดปากน้ำภาษีเจริญ ธนบุรี กรุงเทพ เป็นต้นเวลา 22.00-00.00 น.เช่น พระราชวตาจารย์ วัดมกุฏกษัตริยาราม กรุงเทพฯ พระญาณโพธิ (เข็ม) วัดสุทัศนเทพวราราม กรุงเทพฯ พระวิเชียรมุนี วัดอินทราม กรุงเทพฯ

พระพุทธมนต์วราจารย์ (สุพจน์) วัดสุทัศนเทพวราราม กรุงเทพฯ พระโสภณมหาจารย์ วัดดาวดึงนาราม กรุงเทพฯ พระครูพิบูลมงคล วัดสุทัศนเทพวราราม กรุงเทพฯ เป็นต้นวันเสาร์ที่30 มกราคม พ.ศ. 2514

เวลา 18.00-20.00 น. เช่น พระธรรมวราลังการ วัดบุปผาราม ธนบุรี กรุงเทพฯ, พระโพธิวรคุณ (ไพฑูรย์) วัดโพธิ์นิมิต กรุงเทพฯ, พระครูสีลวิสุทธาจารย์ วัดสง่างาม จ.ปราจีนบุรี พระครูประภัศระธรรมาภรณ์ (หลวงพ่อแต้ม) วัดพระลอย จ.สุพรรณบุรี พระครูประสิทธิสารคุณ (พ้น) วัดอุบลวรรณาราม จ.ราชบุรี พระครูสังฆวฒาจารย์ (หลวงปู่เย่อ) วัดอาฬาสงคราม จ.สมุทรปราการ พระอาจารย์หนู วัดบางกะดี่ กรุงเทพฯ พระอาจารย์มงคล (กิมไซ) วัดป่าเกตุ จ.สมุทรปราการ เป็นต้นเวลา 22.00-00.00 น.เช่น พระเทพเมธากร วัดเทพศิรินทราวาส กรุงเทพฯ พระราชวรญาณมุนี นุภพศิริมาตราม กรุงเทพฯ พระปัญญาพิศาลเถระ วัดราชประดิษฐ์ กรุงเทพฯพระครูโสภณสมาธิวัตร วัดเจ้ามูล ธนบุรี กรุงเทพฯ พระครูวิริยะกิตติ (หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี) ธนบุรี กรุงเทพฯ เป็นต้นวันอาทิตย์ที่ 31 มกราคม พ.ศ.2514 จัดพิธีพุทธาภิเษกต่อเนื่องจนครบ 108 รูป พระหูยาน จ.ป.ร. 100 ปี วัดราชบพิธ กทม. ปี2513สำหรับพระพิมพ์หูยาน จ.ป.ร. รุ่นฉลอง 100 ปี วัดราชบพิธฯ ที่เรียกว่ารุ่น “ปืนแตก” มาจากคำบอกเล่าของท่านเจ้าคุณพระธรรมเมธี (อัคค ชิโน) ซึ่งท่านได้เล่าไว้ และมีการระบุข้อมูลเอาไว้ว่า หลังการจัดทำพิธีพุทธาภิเษกแล้ว ได้มีบรรดานายทหาร จากกรมรักษาดินแดน และ กระทรวงกลาโหม ซึ่งอยู่ใกล้กับวัดราชบพิธฯ ได้มาบูชาซึ่งสมัยนั้นราคาถูกมากเพียงองค์ละ 10 บาท เท่านั้น และหลังจากบูชากันไปแล้ว ทหารหลายรายได้นำไปพิสูจน์ความเข้มขลัง ด้วยการนำพระหูยาน จ.ป.ร. ที่นำไปเลี่ยมพลาสติกแล้วไปแขวนกับธงชาติ แล้วชักธงชาติระดับเหนือศีรษะขึ้นจากนั้นทำการทดลองยิง ปรากฏว่า นัดแรก กระสุนปืนเกิดด้าน ยิงไม่ออก จึงทำการตรวจสอบปืนใหม่ แล้วทดลองยิงอีกนัดคราวนี้ปรากฏว่าเกิดเสียงระเบิดดังขึ้น และพอสิ้นเสียงระเบิด ทหาร ผู้ทำการทดลองยิงก็ออกอาการตกใจ เมื่อเห็นปากกระบอกปืน ที่ใช้ทดลองยิง แตกเป็นรอยร้าวทั้งลำกล้อง ใช้การไม่ได้อีกเลย ตั้งแต่นั้นมาบรรดาทหารที่อยู่ในเหตุการณ์ทดลองยิงจึงเรียก พระหูยาน จ.ป.ร.ว่ารุ่น “ปืนแตก” เป็นที่เลื่องลือกันมากในยุคนั้น นอกจากนี้บรรดาทหารที่อาสาสมัครไปร่วมรบในสมรภูมิเวียดนาม ที่รอดชีวิตกลับมาก็มีการร่ำลือว่า เหตุที่รอดชีวิตเพราะได้พกพาพระหูยานรุ่นปืนแตกนี้ติดตัวไปด้วย